For the beginners of jubeat (Qubell)

e-AMUSEMENT PASS คืออะไร ?

e-AMUSEMENT PASS เป็นบัตรที่เก็บ access code ซึ่งใช้สำหรับการเข้าถึงข้อมูลการเล่น (Playdata) ของผู้เล่นแต่ละคน โดยบัตร e-AMUSEMENT PASS 1 ใบสามารถใช้ได้กับทุกเกมของ KONAMI ที่สามารถใช้กับ e-AMUSEMENT ได้

สำหรับผู้เล่นที่ต้องการเก็บข้อมูลการเล่นต่าง ๆ ไว้ เช่น ผลการเล่น เพลงที่ปลดล็อคได้ ฯลฯ การใช้ e-AMUSEMENT PASS ในการเล่นเกมจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เล่นเหล่านี้ เพราะหากไม่ใช้ e-AMUSEMENT PASS ก็จะไม่สามารถเล่นเพลง Original ส่วนใหญ่ได้เลย นอกจากนั้น e-AMUSEMENT PASS ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเข้าร่วม Event ส่วนใหญ่ทั้งที่เป็น Interlocking events หรือเป็น Event เฉพาะของ jubeat Qubell ก็ตาม (รวมถึงการปลดล็อคเพลงในเกมเช่นกัน)

สำหรับ e-AMUSEMENT PASS แต่ละใบจะมี access code 16 หลัก ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่และตัวเลข โดยจะไม่มีตัวอักษรเหล่านี้อยู่ใน access code: I, O, Q และ V ซึ่งผู้เล่นควรจดจำรหัสนี้ได้ (รวมถึง PIN 4 หลักที่ตั้งบนตู้เกมในการเล่นครั้งแรก) หรือลงทะเบียนผูกกับ KONAMI ID ให้เร็วที่สุดหลังจากที่เล่นครั้งแรก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการกู้ข้อมูลหากบัตรเกิดการสูญหายขึ้นมา

เริ่มใช้ e-AMUSEMENT PASS ครั้งแรกใน jubeat Qubell ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

เมื่อผู้เล่นได้ e-AMUSEMENT PASS มาแล้วและต้องการเริ่มเล่นครั้งแรกบนตู้ jubeat Qubell ให้นำบัตรแตะกับที่อ่านการ์ดบนตู้ (อยู่ทางด้านซ่ายมือถัดจากที่หยอดเหรียญ) ระบบจะพามาเจอกับหน้าแรกดังรูป (a) ซึ่งสามารถกดเลือกได้สองปุ่มคือ

• ปุ่มซ้ายมือ เป็นการเริ่มสร้าง Account โดยใช้รหัสบนบัตรที่ได้แตะไป
• ปุ่มขวามือ เป็นการแสดงคำแนะนำในการถ่ายโอนข้อมูลจากบัตรเดิมมายังบัตรใหม่ใบนี้ ซึ่งจะแสดงรหัสบนบัตรใบใหม่ 16 หลักเพื่อให้ไปดำเนินการถ่ายโอนข้อมูลบนเว็บ e-AMUSEMENT gate

ดังนั้น หากผู้เล่นต้องการเริ่มใช้บัตรใหม่เพื่อเล่นเกมครั้งแรก ให้กดเลือกปุ่มซ้ายมือ แล้วกด NEXT ที่มุมขวาด้านล่าง ซึ่งหน้าต่อไปเป็นดังรูป (b) หน้านี้เป็นการถามยืนยันว่าจะยอมรับข้อกำหนดในการใช้งานหรือไม่ ถ้ายอมรับให้กดเลือกปุ่มซ้ายมือและกด NEXT ที่มุมขวาล่าง ซึ่งหลังจากนั้นระบบจะปรากฏหน้าเพื่อให้เราตั้งรหัส PIN 4 หลักดังแสดงรูป (c)

(a) เปิดใช้บัตรใหม่ → (b) ยอมรับเงื่อนไขการเล่น → (c) ตั้งรหัส PIN สำหรับ login

เมื่อตั้ง PIN 4 หลักโดยกรอกครบทั้งสองครั้งแล้ว จะปรากฏคำแนะนำเพื่อให้นำบัตรไปผูกกับ KONAMI ID บนเว็บ e-AMUSEMENT gate ซึ่งจะได้กล่าวในหัวข้อต่อไปหลังจากนี้ เมื่อกด NEXT แล้ว เกมจะให้เราตั้งชื่อผู้เล่นโดยตั้งได้ไม่เกิน 8 ตัวอักษร เมื่อผู้เล่นตั้งชื่อเสร็จและกด NEXT แล้วจะปรากฏหน้าดังรูป (d) ซึ่งหากเราต้องการยืนยันชื่อที่เราตั้ง ให้กด NEXT ระบบจะใช้เวลาสักครู่ และขึ้นข้อความว่าชื่อของเราได้ถูกตั้งเรียบร้อยแล้วดังแสดงในรูป (e)

ต่อไปเป็นหน้าสุดท้ายก่อนเริ่มเข้าเกม (รูป (f)) ซึ่งบอกว่า ในการเล่นรอบแรกนี้ ผู้เล่นจะได้เล่น 3 เพลงฟรี ถ้าต้องการเริ่มเล่นก็กด NEXT ได้เลย !!!

หลังตั้งชื่อผู้เล่นแล้ว (d) ยืนยังชื่อที่ตั้งหรือไม่? → (e) เกมตั้งชื่อและเปิดใช้บัตรให้เรียบร้อย → (f) เล่นครั้งแรก 3 เพลงฟรี กด NEXT แล้วเริ่มเล่นได้เลย

เพลงที่ปรากฏในหน้า INFORMATION คืออะไร ?

เมื่อผู้เล่นเข้าสู่หน้า INFORMATION ในช่วงต้นของรอบการเล่น จะมีเพลงปรากฏบนหน้าจอครึ่งบน 1 ~ 2 เพลง โดยเพลงด้านซ้ายมือนั้นเป็นเพลงแนะนำประจำวัน (きょうのオススメ楽曲) คือเพลงที่เมื่อผู้เล่นเลือกเล่นแล้ว จะได้รับ dp. สำหรับการขุด QUBE เพิ่มขึ้นจากปกติ นอกจากนั้นหากผู้เล่นทำการสุ่มเพลงจากหน้าเว็บ jubeat Qubell แล้ว จะมีเพลงปรากฏด้านขวามืออีก 1 เพลง เพลงนั้นคือ FULL COMBO CHALLENGE ซึ่งหากผู้เล่น FULL COMBO ชาร์ตใดก็ได้ของเพลงดังกล่าวในการเล่นครั้งแรกหลังจากที่สุ่ม FULL COMBO CHALLENGE ขึ้นมา ผู้เล่นจะได้รับ dp. เพิ่มจากปกติเช่นกัน (ในอัตราที่สูงกว่าเพลงแนะนำประจำวัน) แต่ผู้เล่นสามารถกดสุ่ม FULL COMBO CHALLENGE ได้เพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น (Reset ทุกวันตอน 7.00 JST)

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จากหน้านี้

dig dig Qubell คืออะไร ?

dig dig Qubell เป็นระบบปลดล็อค (unlocking system) หลักของ jubeat Qubell ซึ่งผู้เล่นจะต้องใช้ dig points (dp.) ที่ได้จากการเล่นแต่ละเพลงเพื่อนำไปขุด QUBE ที่ผู้เล่นเลือกในช่วงต้นของแต่ละรอบการเล่น นอกจากนั้นผู้เล่นอาจต้องทำตามเงื่อนไขที่เกมกำหนดเพื่อให้ KEY QUBE เปล่งแสงและนำไปใช้ได้ หรืออาจต้องเคลียร์ UNLOCK CHALLENGE เพื่อผ่านไปยัง STAGE ต่อไปได้

ก่อนที่ผู้เล่นจะเข้าสู่หน้าเลือกเพลง (SELECT MUSIC) ของเพลงแรกในแต่ละรอบ ผู้เล่นจะต้องเลือก QUBE ที่ต้องการขุด ซึ่งผู้เล่นจะไม่สามารถเปลี่ยนไปขุด QUBE อื่นได้จนกว่าจะขึ้นรอบการเล่นใหม่ โดย QUBE ที่สามารถเลือกได้มีดังต่อไปนี้

• Emerald เป็น QUBE สำหรับปลดล็อคเพลงใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน jubeat Qubell ช่วงแรก
• Garnet เป็น QUBE สำหรับปลดล็อคเพลงเก่าก่อน jubeat Qubell
• Special เป็น QUBE ที่ผู้เล่นสามารถปลดล็อคเพลงใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน jubeat Qubell ตามช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ในช่วงเวลาที่เกมกำหนดเท่านั้น

เมือผู้เล่นเลือก QUBE ที่ต้องการและกด NEXT แล้ว เกมจะแสดงเงื่อนไขของ KEY QUBE ที่ผู้เล่นทำได้แล้ว รวมถึงที่ผู้เล่นต้องทำเพื่อใช้ขุด QUBE ในช่วงท้ายของ STAGE ซึ่งหากต้องการขุด QUBE ที่เลือกจริง ๆ ให้กด NEXT อีกครั้งหนึ่ง เกมจะพาไปยังหน้า LOCAL MATCHING และ SELECT MUSIC ต่อไป

รายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับ dig dig Qubell รวมถึง QUBE ทั้งหมดที่ปรากฏใน jubeat Qubell สามารถดูได้จากหน้านี้

LOCAL MATCHING คืออะไร ?

LOCAL MATCHING เป็นการเล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่นระหว่างตู้ในร้าน (shop) เดียวกัน โดยหลังจากที่ผู้เล่นเลือก QUBE ที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว เกมจะพามายังหน้า LOCAL MATCHING เพื่อรอผู้เล่นท่านอื่นที่เข้ามารอยังหน้านี้เช่นกัน ซึ่งหากผู้เล่นต้องการเล่นคนเดียว สามารถกด NEXT เพื่อข้ามไปยังหน้า SELECT MUSIC ได้ทันทีที่หน้านี้ปรากฏขึ้น

แต่หากต้องการเข้าเกมพร้อมกันผู้เล่นท่านอื่น ให้รอจนกว่าผู้เล่นทุกคนปรากฏบนจอด้านบนจนครบ แล้วจึงกด NEXT เพื่อเข้าหน้า SELECT MUSIC พร้อมกันทุกคน

สำหรับการ LOCAL MATCHING เมื่อมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งกด NEXT เพื่อเลือกเพลงในหน้า SELECT MUSIC แล้ว ผู้เล่นทุกคนจะสามารถเลือก DIFFICULTY ของชาร์ตที่ต้องการเล่นได้ (ผู้เล่นทุกคนไม่จำเป็นต้องเลือกเล่นชาร์ตที่มี DIFFICULTY เดียวกันก็ได้) อีกครั้งหนึ่ง

เราจะหาเพลงที่ต้องการเจอในหน้า SELECT MUSIC ได้อย่างไร ?

เนื่องจากเพลงทั้งหมดที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้มีอยู่จำนวนมาก ผู้เล่นสามารถเลือกกลุ่มเพลงที่ต้องการให้แสดงได้ โดยกดปุ่มมุมบนด้านซ้ายมือสุด 1 ครั้ง (หรือ 2 ครั้ง) เพื่อให้เกมแสดงโฟลเดอร์หรือกลุ่มของเพลงต่าง ๆ ได้ ซึ่งมีดังนี้

• โฟลเดอร์สีเขียว: แสดงเพลงทั้งหมดที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้
• โฟลเดอร์สีแดง: แสดงเพลงทั้งหมดตาม genre ที่ผู้เล่นเลือก
• โฟลเดอร์สีม่วง: แสดงชาร์ตทั้งหมดตาม LEVEL ที่ผู้เล่นเลือก
• โฟลเดอร์สีน้ำเงิน: แสดงเพลงทั้งหมดที่ขึ้นต้นด้วยกลุ่มอักษรตามที่ผู้เล่นเลือก
• โฟลเดอร์สีฟ้า: แสดงเพลงทั้งหมดที่มีโน้ต HOLD อยู่ในชาร์ต

นอกจากนั้น ผู้เล่นยังสามารถเลือกเงื่อนไขสำหรับการเรียงลำดับรายชื่อเพลงได้อีกด้วย โดยกดปุ่มมุมบนด้านซ้ายมือสุดค้างไว้ แล้วเลือกเงื่อนไขของการเรียงเพลงที่ต้องการ ซึ่งได้แก่ ชื่อ, Version, LEVEL, RATING และ genre โดยเพลงจะถูกแสดงเป็นกลุ่ม ๆ ตามที่เลือกไว้เรียงไปตามลำดับ

นอกจากนั้น ผู้เล่นสามารถข้ามไปยังเพลงกลุ่มต่อ ๆ ไปได้โดยกดที่ชื่อกลุ่มได้อีกด้วย

ถ้าต้องการเปลี่ยนระดับความยากของชาร์ต ต้องทำอย่างไร ?

ผู้เล่นสามารถกดเลือกเพลงเดิมเพื่อเปลี่ยน Difficulty ของชาร์ตได้ ซึ่งจะเรียงจาก BASIC → ADVANCED → EXTREME แล้ววนกลับมาที่ BASIC อีกครั้ง เป็นเช่นนี้เรื่อยไป

แต่ผู้เล่นจะไม่สามารถเปลี่ยน Difficulty โดยวิธีดังกล่าวได้ หากผู้เล่นเลือกวิธีการเรียงเพลง (sort) หรือแสดงกลุ่มของเพลงที่ต้องการตาม LEVEL หรือ RATING รวมถึงการเข้าไปยังโฟลเดอร์ที่แบ่งกลุ่มเพลงตาม RATING และ Achievement อีกด้วย (โฟลเดอร์สีขาว-เทา)

เราสามารถตั้งค่าอะไรในเกมได้บ้าง ?

ผู้เล่นสามารถเข้าไปดูหรือปรับเปลี่ยนการตั้งค่าการเล่นได้จากหน้า SELECT MUSIC โดยกด CONCIERGE ตามด้วย SETTING ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกตัั้งค่าได้ตามรายการต่อไปนี้

• Marker (マーカー): เปลี่ยน animation ที่ปรากฏบนแต่ละปุ่มในระหว่างการเล่น
• Background (プレー背景): เปลี่ยนพื้นหลังที่ปรากฏระหว่างการเล่น รวมถึงตั้งค่าการแสดง COMBO และ RANKING ระหว่างการเล่นด้วย
• EXPERT OPTION: การตั้งค่าขั้นสูง (สามารถดูรายละเอียดได้จากหน้านี้)

หากเล่นแล้วไม่สามารถ CLEAR ได้จะเกิดอะไรขึ้น ?

ในกรณีที่ผู้เล่นทำคะแนนรวมได้ไม่ถึง 700000 จะถือว่า FAILED และการเล่นในรอบนั้นจะจบลงทันที ยกเว้นกรณีต่อไปนี้

• มีผู้เล่นที่ MATCHING ด้วยอย่างน้อย 1 คนที่ CLEAR เราจะถูก SAVED และสามารถเล่นเพลงต่อไปได้
• สำหรับผู้เล่นที่ใช้ e-AMUSEMENT PASS เกมจะ SAVE ให้เฉพาะเพลงแรกที่เล่นโดยใช้บัตรดังกล่าวเท่านั้น แม้ว่าจะไม่มีผู้เล่นที่ MATCHING ด้วยมา SAVE เราก็ตาม
• สำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้ e-AMUSEMENT PASS เกมจะ SAVE ให้ผู้เล่นเสมอ (ยกเว้น FINAL TUNE) ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้ครบ 3 TUNEs แน่นอน

สามารถดู RATING ที่จะได้รับตามช่วงของคะแนนได้จากหน้านี้

ผู้เล่นจะได้รับอะไรหลังจากเล่นจบแต่ละเพลงบ้าง ?

เมื่อผู้เล่นเล่นจบแต่ละเพลง เกมจะแสดงหน้า RESULT ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

• หากผู้เล่นได้รับเพลงนั้นหลังจากเล่นจบ เกมจะแสดงหน้า Congratulations! ดังตัวอย่างด้านล่าง

• RATING ที่ผู้เล่นได้
• dig points (dp.) ที่ผู้เล่นได้ (รายละเอียดดูได้จากหน้านี้)
• BONUS TUNE points ที่ผู้เล่นสะสมได้จนถึงเพลงนี้ (รายละเอียดดูได้จากหน้านี้)
• Title parts ที่ได้รับ (ในกรณีที่ผู้เล่นที่เรา MATCHING ด้วยใช้ Title part ที่เราไม่เคยได้รับมาก่อน เราจะได้ Title part นั้นมา)

จะรู้ได้อย่างไรว่าเรามี KEY QUBE ที่ใช้ได้จำนวนมากพอที่จะเคลียร์ STAGE ปัจจุบันได้แล้ว ?

หลังจากที่เล่นแต่ละเพลงจบ เกมจะแสดงหน้าที่นำ dp. ที่ได้จากการเล่นเติมเข้าไปในเกจ TOTAL dig points ซึ่งก่อนหน้านั้น เกมจะแสดงว่ามี KEY QUBE ใดบ้างที่เปล่งแสงแล้ว (KEY QUBE ที่ผู้เล่นทำตามเงื่อนไขได้สำเร็จ) พร้อมกับหน้า Congratulations! ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบดังนี้

แบบที่ 1: ผู้เล่นมี KEY QUBE เปล่งแสงเพียงพอแล้ว

แบบที่ 2: ผู้เล่นมี KEY QUBE เปล่งแสงยังไม่เพียงพอที่จะเคลียร์ STAGE ปัจจุบัน

โดยผู้เล่นจำเป็นต้องทำตามเงื่อนไขเพื่อให้ KEY QUBE เปล่งแสงอีกตามจำนวนภายในวงกลมสีแดง (ในการเล่นจริงบนตู้ จะไม่มีวงกลมสีแดงปรากฏดังในภาพนี้)

ทำไมบางรอบของการเล่นจึงได้เล่นถึง 4 เพลง ?

หากผู้เล่นเข้าสู่ BONUS TUNE หลังจากเล่น FINAL TUNE ไปแล้ว แสดงว่าผู้เล่นมี BONUS TUNE points ครบ 1000 pt. นั่นเอง ซึ่งสังเกตได้จากวงของ BONUS TUNE points ที่แสดงในหน้า RESULT หลังจากเล่นแต่ละเพลงจบลง หากขอบสีฟ้าด้านนอกครบวงแสดงว่าผู้เล่นมี BONUS TUNE points สะสมอยู่ตั้งแต่ 1000 pt. ขึ้นไปนั่นเอง

เมื่อผู้เล่นเข้าสู่ BONUS TUNE ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเพลงใดก็ได้เช่นเดียวกับทั้งสามเพลงที่ผ่านมา ซึ่งผู้เล่นจะได้รับ dp. เพิ่มอีก 100 pt. สำหรับการเล่นเพลงนี้อีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BONUS TUNE สามารถดูได้จากหน้านี้

UNLOCK CHALLENGE คืออะไร ?

เมื่อผู้เล่นขุดไปจนถึง QUBE สีเหลืองส้มอันใหญ่ซึ่งเป็น QUBE สุดท้ายของ STAGE เกมจะแสดงเงื่อนไขของการเคลียร์ UNLOCK CHALLENGE ซึ่งเป็นการเคลียร์เพลงที่ถูกกำหนดไว้ติดต่อกันให้ครบทั้ง 3 เพลงตามเงื่อนไขที่กำหนด เมื่อผู้เล่นเคลียร์ UNLOCK CHALLENGE ได้สำเร็จ QUBE สีเหลืองส้มอันใหญ่ดังกล่าวจะถูกขุดให้แตก ทำให้ผู้เล่นผ่านไปยัง STAGE ต่อไปได้นั่นเอง (ถ้ามี) นอกจากนั้นผู้เล่นยังอาจได้รับเพลงใหม่หลังจากที่เคลียร์ UNLOCK CHALLENGE สำเร็จอีกด้วย

ในการเคลียร์ UNLOCK CHALLENGE ผู้เล่นจะต้องเข้าไปยังโฟลเดอร์ UNLOCK CHALLENGE ซึ่งสามารถเข้าได้ 2 ทางดังแสดงในรูปด้านล่าง (ต้องเลือกจากหน้า MUSIC SELECT ของ 1st TUNE เท่านั้น) และเมื่อผู้เล่นเข้า UNLOCK CHALLENGE ไปแล้ว จะไม่สามารถออกมาได้จนกว่าจะเคลียร์สำเร็จหรือไม่สามารถทำตามเงื่อนไขของการเคลียร์ได้ในระหว่างทาง และในกรณีที่ผู้เล่นทำตามเงื่อนไขของ UNLOCK CHALLENGE โดยไม่ได้เข้าไปในโฟลเดอร์ UNLOCK CHALLENGE ก็จะไม่ถือว่าผู้เล่นได้เคลียร์ UNLOCK CHALLENGE ดังกล่าวเช่นกัน

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ UNLOCK CHALLENGE สามารถดูได้จากหน้านี้

EMBLEM และ jbox คืออะไร ?

หลังจากกดเลือก Exit ในหน้าเลือก QUBE แล้ว เกมจะแสดงหน้า EMBLEM ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของผู้เล่น แล้วตามด้วย jbox ซึ่งจะแสดง jbox points ที่ผู้เล่นสะสมมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าผู้เล่นมี jbox points มากพอ ก็จะสามารถเปิด jbox ได้ 1 ครั้ง โดย jbox มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบได้แก่ NORMAL และ PREMIUM ซึ่งภายใน jbox จะมีส่วนประกอบย่อย ๆ ของ EMBLEM อยู่ ซึ่งแต่ละส่วนจะมีระดับของ rarity แตกต่างกันไป สำหรับ NORMAL jbox จะมี EMBLEM parts ระดับ ★ - ★★★ ส่วน PREMIUM jbox จะมี EMBLEM parts ระดับ ★★★ - ★★★★★

ผู้เล่นสามารถเลือกประกอบ EMBLEM parts ต่าง ๆ ที่ได้รับเพื่อสร้าง EMBLEM ของตนเองได้โดยเข้าไปที่เว็บของ jubeat Qubell (http://p.eagate.573.jp/game/jubeat/qubell/p/playdata/emblem.html) ซึ่งผู้เล่นต้องทำการผูก e-AMUSEMENT PASS เข้ากับ KONAMI ID ก่อนจึงจะใช้งานเว็บดังกล่าวได้

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EMBLEM และ jbox สามารถดูได้จากหน้านี้

ข้อแนะนำสำหรับผู้เล่นที่ใช้ e-AMUSEMENT PASS ครั้งแรกหลังจากเล่นจบรอบแรกแล้ว (การผูกบัตรกับ KONAMI ID)

หลังจากที่ใช้บัตรใหม่ในการเล่นครั้งแรกเสร็จแล้ว แนะนำให้ผู้เล่นผูกบัตรดังกล่าวเข้ากับ KONAMI ID ทันที เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลในกรณีที่บัตรของเราเกิดการสูญหายหรือชำรุดขึ้นมา โดยขั้นตอนในการผูกบัตรมีดังนี้

1. หากผู้เล่นยังไม่มีหรือไม่เคยสมัคร KONAMI ID ให้เข้าไปที่ https://my.konami.net/ ซึ่งหากต้องการใช้บริการ PASELI (เป็น electronic money สำหรับใช้เล่นเกมในญี่ปุ่น หรือใช้สำหรับเปิด jbox เพื่อรับส่วนต่างๆของ EMBLEM ในเกมนี้) ให้สมัครโดยเลือกประเทศเป็น Japanese แต่ถ้าอยากสมัครง่ายๆโดยใช้ภาษาอังกฤษก็เลือก Thailand จะดีกว่า
2. หลังจากนั้นเข้าไปที่เว็บ https://p.eagate.573.jp/gate/p/eapass/menu.html แล้ว login ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นเลือกเมนูแรกที่เขียนว่า register an 'e-AMUSEMENT PASS' to KONAMI ID โดยหน้านี้จะเป็นการนำบัตรที่เรามีอยู่ไปผูกกับ KONAMI ID ที่เราสร้างขึ้นมา (รหัสที่สามารถนำมาผูกได้จะต้องเป็นของบัตรที่เคยผ่านการเล่นที่ตู้มาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้งเท่านั้น) ให้ใส่รหัสด้านหลังบัตร 16 หลักลงไปในช่อง Card Number และรหัสสี่หลักที่ตั้งไว้ที่ตู้ลงในช่อง PIN เมื่อเรียบร้อยแล้วกดปุ่มสีฟ้าๆที่เขียนว่า Confirm Registration ได้เลย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ระบบจะแจ้งว่าบัตรของเราได้ลงทะเบียนผูกไว้กับ KONAMI ID นี้เป็นที่เรียบร้อย
   • สำหรับผู้ที่สมัครโดยเลือกประเทศเป็นญี่ปุ่น ให้ไปที่ https://p.eagate.573.jp/gate/p/eamusement/attach/index.html สำหรับช่องแรก カードナンバー（ユーザーコード） ให้ใส่รหัสบัตรของเรา 16 หลักลงไป ส่วนช่องต่อมา 暗証番号 ให้ใส่รหัส 4 หลักที่เราตั้งไว้ที่ตู้ลงไปให้ถูกต้อง และช่องสุดท้าย PASELI利用設定 ให้เราเลือกว่าบัตรของเราจะมีการเปิดใช้ PASELI ซึ่งเป็น Payment system สำหรับการเล่นเกมที่ตู้ในญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีผลกับการเล่นในไทย จึงแนะนำว่าไม่ต้องเปิดก็ได้ โดยเลือกตัวเลือกสุดท้ายที่ไม่มีวงเล็บต่อท้ายครับ (ถ้าเลือกสองตัวเลือกด้านบนคือให้ใช้ PASELI กับบัตรที่เราเพิ่มเข้าไปได้นั่นเอง) ซึ่งเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็กดปุ่มสีแดงที่มีลูกศรชี้ไปทางขวาด้านล่างได้เลยครับ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยระบบก็จะแจ้งว่าเราได้ผูกบัตรกับ ID แล้วเรียบร้อย ซึ่งหากไปที่หน้า http://p.eagate.573.jp/gate/p/eamusement/index.html (หรือกดแท็บ e-AMUSEMENT ด้านบนของหน้าเว็บ) ระบบก็จะแสดงรหัสบัตรของเราที่ด้านบนของหน้า รวมถึงสัญลักษณ์ของเกม jubeat Qubell (หรือเกมอื่นๆที่เคยเล่นมาแล้ว) ด้านล่างรหัสบัตรของเรานั่นเอง จึงถือเป็นการเสร็จสิ้นการผูก eAMUSEMENT PASS กับ KONAMI ID โดยสมบูรณ์

เมื่อผู้เล่นผูกบัตรเข้ากับ KONAMI ID แล้ว ผู้เล่นจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ บนเว็บของ jubeat Qubell ได้ทันทีโดยเข้าไปที่ http://p.eagate.573.jp/game/jubeat/qubell/p/information/index.html